พาลูกน้อย สํารวจธรรมชาติ
เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์ข้างต้นเกิดขึ้นต่างเวลา ต่างบุคคล และต่างสถานที่ แต่ทั้งสองเหตุการณ์เกี่ยวพันเชื่อมโยงกับสิ่งเดียวกันคือ ธรรมชาติ การปลูกฝังให้เด็กรู้สึกรักธรรมชาติ และรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาตินั้นถือว่ามีความสําคัญมาก เด็กจําเป็นต้องมีความรักต่อสิ่งต่างๆ รอบตัวไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ดอกไม้ ภูเขา ทะเล หรือสัตว์ต่างๆ ที่อยู่ในธรรมชาติ ซึ่งความรู้สึกข้างต้นเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถปลูกฝังแก่ลูกได้ตั้งแต่ลูกยังเล็กผ่านการสํารวจ และเรียนรู้จากธรรมชาติโดยมีคุณพ่อคุณแม่คอยเรียนรู้ร่วมไปกับลูกด้วย
เมื่อลูกสํารวจธรรมชาติในสนามหญ้าภายในบ้าน หรือในสวนสาธารณะ คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยกับลูก หรือชี้ชวน ให้ลูกสังเกตสิ่งต่างๆ รอบตัว เช่น ก้อนเมฆ ผีเสื้อ ต้นไม้ ใบไม้ และดอกไม้ โดยผ่านคําถามต่างๆ อาทิ ผีเสื้อ ที่ลูกเห็นยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ลูกรู้ได้อย่างไรว่าผีเสื้อยังมีชีวิต ผีเสื้อเป็นสัตว์หรือเป็นพืช ผีเสื้อมีสีอะไรบ้าง ผีเสื้อกินอะไรเป็นอาหาร ผีเสื้ออาศัยอยู่ที่ไหน ลูกคิดว่า ถ้าลูกจับผีเสื้อแล้วจะเกิดอะไรขึ้น เป็นต้น ในเด็กโต คุณพ่อคุณแม่อาจถามคําถามที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เช่น ให้ลูกลองจินตนาการดูซิว่า โลกในมุมมองของผีเสื้อจะมีลักษณะเช่นไร นอกจากนั้น คุณพ่อคุณแม่ยังอาจกระตุ้นให้ลูกได้สัมผัสธรรมชาติโดยผ่านส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น ให้ลูกนอนลงบนพื้นหญ้า หรือบน หาดทราย ให้ลูกหายใจรับอากาศให้เต็มที่ หรือให้ลูกเล่นเป่าฟองสบู่ในสนามหญ้า ให้ลูกสังเกตน้ำค้างบนยอดหญ้าในยามเช้า และให้ลูกยืนรับแสงแดดกลางแจ้งและลองเข้ามายืนในร่มเพื่อเปรียบเทียบว่า ลูกรู้สึกอย่างไร
ถ้าคุณพ่อคุณแม่เปิดโอกาสให้ลูกได้สํารวจธรรมชาติอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอก็จะช่วยให้ลูกเรียนรู้ และปรับตัวเข้ากับธรรมชาติได้มากขึ้น ในการสํารวจธรรมชาติรอบตัวแต่ละครั้ง คุณพ่อคุณแม่อาจเตรียมอุปกรณ์ศิลปะจําพวกกระดาษวาดรูป ดินสอสี ดินน้ำมัน สําหรับให้ลูกได้วาด หรือปั้นสิ่งต่างๆ ที่เห็น หรือประทับใจ ในเด็กโต คุณพ่อคุณแม่อาจให้ลูกแต่งเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกเห็นก็ได้
คุณพ่อคุณแม่สามารถนําธรรมชาติเข้ามาอยู่ในบ้านได้เช่นกัน โดยการนําสัตว์เลี้ยง หรือพืชชนิดต่างๆ อาทิ ปลา นก และต้นไม้ มาให้เด็กได้ดูแล เอาใจใส่ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เด็กได้พัฒนาความรับผิดชอบในการดูแลสิ่งต่างๆ นอกเหนือจากการดูแลตนเอง การให้เด็กได้มีโอกาสปลูก และดูแลต้นไม้ด้วยตัวของเด็กเองจะช่วยให้เด็กเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง และรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า
เมื่อลูกสํารวจธรรมชาติในสนามหญ้าภายในบ้าน หรือในสวนสาธารณะ คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยกับลูก หรือชี้ชวน ให้ลูกสังเกตสิ่งต่างๆ รอบตัว เช่น ก้อนเมฆ ผีเสื้อ ต้นไม้ ใบไม้ และดอกไม้ โดยผ่านคําถามต่างๆ อาทิ ผีเสื้อ ที่ลูกเห็นยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ลูกรู้ได้อย่างไรว่าผีเสื้อยังมีชีวิต ผีเสื้อเป็นสัตว์หรือเป็นพืช ผีเสื้อมีสีอะไรบ้าง ผีเสื้อกินอะไรเป็นอาหาร ผีเสื้ออาศัยอยู่ที่ไหน ลูกคิดว่า ถ้าลูกจับผีเสื้อแล้วจะเกิดอะไรขึ้น เป็นต้น ในเด็กโต คุณพ่อคุณแม่อาจถามคําถามที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เช่น ให้ลูกลองจินตนาการดูซิว่า โลกในมุมมองของผีเสื้อจะมีลักษณะเช่นไร นอกจากนั้น คุณพ่อคุณแม่ยังอาจกระตุ้นให้ลูกได้สัมผัสธรรมชาติโดยผ่านส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น ให้ลูกนอนลงบนพื้นหญ้า หรือบน หาดทราย ให้ลูกหายใจรับอากาศให้เต็มที่ หรือให้ลูกเล่นเป่าฟองสบู่ในสนามหญ้า ให้ลูกสังเกตน้ำค้างบนยอดหญ้าในยามเช้า และให้ลูกยืนรับแสงแดดกลางแจ้งและลองเข้ามายืนในร่มเพื่อเปรียบเทียบว่า ลูกรู้สึกอย่างไร
ถ้าคุณพ่อคุณแม่เปิดโอกาสให้ลูกได้สํารวจธรรมชาติอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอก็จะช่วยให้ลูกเรียนรู้ และปรับตัวเข้ากับธรรมชาติได้มากขึ้น ในการสํารวจธรรมชาติรอบตัวแต่ละครั้ง คุณพ่อคุณแม่อาจเตรียมอุปกรณ์ศิลปะจําพวกกระดาษวาดรูป ดินสอสี ดินน้ำมัน สําหรับให้ลูกได้วาด หรือปั้นสิ่งต่างๆ ที่เห็น หรือประทับใจ ในเด็กโต คุณพ่อคุณแม่อาจให้ลูกแต่งเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกเห็นก็ได้
คุณพ่อคุณแม่สามารถนําธรรมชาติเข้ามาอยู่ในบ้านได้เช่นกัน โดยการนําสัตว์เลี้ยง หรือพืชชนิดต่างๆ อาทิ ปลา นก และต้นไม้ มาให้เด็กได้ดูแล เอาใจใส่ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เด็กได้พัฒนาความรับผิดชอบในการดูแลสิ่งต่างๆ นอกเหนือจากการดูแลตนเอง การให้เด็กได้มีโอกาสปลูก และดูแลต้นไม้ด้วยตัวของเด็กเองจะช่วยให้เด็กเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง และรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า
จะเห็นได้ว่า สิ่งต่างๆ ในโลกนี้ล้วนมีจุดกําเนิดมาจากที่เดียวกันทั้งสิ้น คือธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้ ธรรมชาติควรจะเป็นหัวใจสําคัญในการเรียนรู้ของมนุษย์ตั้งแต่แรกเกิด การปลูกฝังความรักในธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมรอบตัวให้กับเด็กตั้งแต่ยังเล็กจะช่วยให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่รัก และเห็นคุณค่าของธรรมชาติ และเรียนรู้ที่จะอนุรักษ์ ดูแลธรรมชาติอย่างแท้จริง
การกระตุ้นการเรียนรู้ ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5
* การมองเห็น ให้เด็กสังเกตสี รูปร่าง ขนาด รูปทรง ของสิ่งต่างๆในธรรมชาติ และที่มนุษย์สร้างขึ้น
ในธรรมชาติรอบตัว อาจให้เด็กสังเกตนกขณะกําลังบิน มดที่กําลังเดินแถวไปยังที่ต่างๆ แมลงเต่าทองขณะกําลังคลานบนยอดหญ้า ใบไม้ของต้นไม้ต่างชนิดกัน คุณพ่อคุณแม่อาจกระตุ้นให้เด็กสังเกตสีของสิ่งต่างๆ ในธรรมชาติ หรือมีการเปรียบเทียบสีของสิ่งต่างๆ ในธรรมชาติกับสีที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น นอกจากนั้น อาจให้เด็กนํา แว่นขยายมาส่องดูสิ่งต่างๆ ที่สนใจ โดยคุณพ่อคุณแม่อาจใช้คําถามในการกระตุ้นการคิดของเด็ก เช่น ลูกเห็นอะไรบ้าง สิ่งที่ลูกเห็นมีลักษณะอย่างไร สิ่งที่ลูกเห็นเคลื่อนที่ได้หรือเปล่า เป็นต้น
* การได้ยิน ให้เด็กได้ฟังเสียงที่ดัง และเสียงที่เบาของสัตว์ต่างๆ เครื่องจักร หรือสิ่งอื่นๆ รอบตัว คุณพ่อคุณแม่อาจให้เด็กหลับตาขณะฟังเสียงเพื่อให้เด็กมีสมาธิในการฟังให้มากขึ้นก็ได้ ขณะที่ลูกกําลัง ฟังเสียง คุณพ่อคุณแม่อาจใช้คําถามกระตุ้นลูก เช่น ลูกได้ยินเสียงอะไร เสียงที่ลูกได้ยินเหมือนกับเสียงอะไรที่ลูกรู้จักบ้าง ลูกคิดว่า ใครเป็นคนทําเสียงนั้น เป็นต้น * การมองเห็น ให้เด็กสังเกตสี รูปร่าง ขนาด รูปทรง ของสิ่งต่างๆในธรรมชาติ และที่มนุษย์สร้างขึ้น
ในธรรมชาติรอบตัว อาจให้เด็กสังเกตนกขณะกําลังบิน มดที่กําลังเดินแถวไปยังที่ต่างๆ แมลงเต่าทองขณะกําลังคลานบนยอดหญ้า ใบไม้ของต้นไม้ต่างชนิดกัน คุณพ่อคุณแม่อาจกระตุ้นให้เด็กสังเกตสีของสิ่งต่างๆ ในธรรมชาติ หรือมีการเปรียบเทียบสีของสิ่งต่างๆ ในธรรมชาติกับสีที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น นอกจากนั้น อาจให้เด็กนํา แว่นขยายมาส่องดูสิ่งต่างๆ ที่สนใจ โดยคุณพ่อคุณแม่อาจใช้คําถามในการกระตุ้นการคิดของเด็ก เช่น ลูกเห็นอะไรบ้าง สิ่งที่ลูกเห็นมีลักษณะอย่างไร สิ่งที่ลูกเห็นเคลื่อนที่ได้หรือเปล่า เป็นต้น
* การดมกลิ่น ให้เด็กได้ดมกลิ่นของสิ่งต่างๆ รอบตัว เช่น กลิ่นหญ้าแห้ง กลิ่นใบไม้สด กลิ่นดอกไม้ กลิ่นแมลง และกลิ่นอาหารที่เพิ่งสุกใหม่ๆ โดยคุณพ่อคุณแม่อาจใช้คําถามกระตุ้น เช่น กลิ่นอันไหนเป็นกลิ่นของพืช กลิ่นอันไหนเป็นกลิ่นของสัตว์ และลูกทราบได้อย่างไร เป็นต้น
* การสัมผัส ให้เด็กได้สัมผัสสิ่งของต่างๆ ที่มีลักษณะนุ่ม แข็ง หยาบ เรียบ ขรุขระ เย็น ร้อน โดยคุณพ่อคุณแม่อาจใช้คําถามกระตุ้นเด็ก เช่น เมื่อสัมผัสของชิ้นนี้แล้ว ลูกรู้สึกอย่างไร ลูกชอบความรู้สึกแบบนี้ไหม เพราะอะไร เป็นต้น
*************
ที่มา : Mother&Care Vol.3 No.29 May 2007
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น