พิษภัยของทีวี:)

ผู้เชี่ยวชาญยำใหญ่ พิษภัยจากการปล่อยให้เด็กดูทีวีมากเกินไป ซึ่งมีทั้งชักนำโรคอ้วน สายตาสั้น อาการนอนไม่หลับ ภูมิต้านทานโรคลดต่ำ ไปจนถึงการแตกเนื้อหนุ่ม/สาวก่อนวัย โรคออทิสซึมและอัลไซเมอร์


ดร.ซิกแมนกล่าวหาภาครัฐที่ละเลยความเชื่อมโยงระหว่างทีวีกับผลลบมากมายที่เกิดกับเยาวชน เช่น ขัดขวางพัฒนาการความก้าวหน้าในโรงเรียน และถ่ายทอดสุขภาพย่ำแย่ไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ ดังนั้น รัฐบาลควรกำหนดให้การจำกัดเวลาการดูทีวีของเด็กๆ เป็นภารกิจสำคัญอันดับต้นๆ เพื่อยกระดับภาวะที่เป็นสุขของเยาวชน และลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุข
รายงานของดร.ซิกแมนที่อิงกับผลสำรวจภายในอังกฤษยังระบุว่า เฉลี่ยแล้วเด็กจะเริ่มใช้เวลาดูทีวีตลอดทั้งปีเมื่ออายุ 6 ขวบ และกว่าครึ่งของเด็กอายุ 3 ขวบมีทีวีในห้องนอน
ดร.ซิกแมนจากบริติช ไซโคโลจิคัล โซไซตี้ เสริมว่าเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปีไม่ควรดูทีวีเลย ส่วนเด็กที่โตกว่านั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรพิจารณาเรื่องการดูทีวีของเด็กอย่างรอบคอบ      

ทั้งนี้ เด็กอายุระหว่าง 3-5 ขวบควรดู ‘รายการดีๆ มีคุณภาพ’ ไม่เกินวันละครึ่งชั่วโมง และเพิ่มเป็น 1 ชั่วโมงสำหรับเด็กอายุ 5-12 ขวบ และ 1 ชั่วโมงครึ่งสำหรับวัยรุ่น
      
        นอกจากจะมีรายงานเปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้ไม่กี่วันว่า เด็กอังกฤษไม่มีความสุขและมีสุขภาพอ่อนแอที่สุดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ดร.ซิกแมนสำทับว่า ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใดที่เด็กอังกฤษได้ชื่อว่าดูทีวีมากที่สุดในยุโรปด้วยเช่นกัน
      
        “การดูทีวี ไม่ว่ารายการรูปแบบใด มีความเชื่อมโยงมากขึ้นกับการเปลี่ยนแปลงทางชีววิทยาและกระบวนการคิดในทางลบ และการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เกิดขึ้นโดยที่ไม่มีใครรู้ เนื่องจากในเอกสารของทางการไม่เคยมีการพาดพิงถึงทีวีเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่ประหลาดมาก
      
        “การปล่อยให้เด็กดูทีวีพร่ำเพรื่อต่อไปถือเป็นการสลัดทิ้งความรับผิดชอบในการเป็นพ่อแม่คน”


      
        รายงานของดร.ซิกแมน ซึ่งตีพิมพ์อยู่ในวารสารไบโอโลจิสต์ ระบุว่า การดูทีวีมากเกินไปมีความเกี่ยวพันกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ที่ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ ส่งเสริมโรคอ้วน และกระทั่งทำให้ภูมิต้านทานโรคต่างๆ ลดลง
      
        การดูทีวียังส่งผลต่อพัฒนาการของสมอง เนื่องจากไม่มีการกระตุ้นให้สมองใช้ความคิดตรึกตรองเหมือนการอ่านหนังสือ รวมถึงมีความเสี่ยงมากขึ้นในการเป็นโรคสมาธิสั้น
      
        การศึกษาระยะยาวในนิวซีแลนด์ที่ติดตามผลเด็กตั้งแต่แรกเกิด ได้ข้อสรุปว่า การดูทีวีมากเกินไปขณะเป็นเด็ก เกี่ยวโยงกับโอกาสประสบความสำเร็จทางการศึกษาที่ลดต่ำลงเมื่ออายุ 26 ปี
      
        ขณะที่การศึกษาของอิตาลีพบว่า เด็กที่ไม่ค่อยได้ดูทีวี มีระดับฮอร์โมนเมลาโทนิน ที่ช่วยชะลอการเจริญเติบโตทางเพศ สูงกว่าเด็กที่ดูทีวีบ่อย
      
        อนึ่ง รายงานของดร.ซิกแมนจำแนกพิษภัยของทีวีต่อเยาวชนไว้ละเอียดลออถึง 15 ข้อดังนี้
      
       - โรคอ้วน เนื่องจากมีการออกกำลังกายน้อยมาก
       - แสงจากทีวียับยั้งการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน
       - ภูมิคุ้มกันโรคลดลง การที่เมลาโทนินลดลงอาจทำให้มีโอกาสเพิ่มขึ้นที่จะเกิดการกลายพันธุ์ในเซลล์ดีเอ็นเอ ซึ่งทำให้เกิดมะเร็ง
       - โตเป็นสาว/หนุ่มก่อนวัย ซึ่งเกี่ยวโยงกับการลดลงของเมลาโทนินเช่นเดียวกัน
       - มีปัญหาในการนอนหลับ เนื่องจากความตื่นเต้นเร้าอารมณ์ของรายการทีวี
       - โรคออทิสซึม หรือความผิดปกติทางพัฒนาการด้านสังคม ภาษา การสื่อความหมาย พฤติกรรมอารมณ์ และจินตนาการ เกิดจากการขาดการปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่น
       - ไขมันในร่างกายเพิ่ม เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเลปตินและเกรลินที่ผลิตไขมันและกระตุ้นความอยากอาหาร
       - ขาดสมาธิ เนื่องจากการพัฒนาเซลล์สมองที่ควบคุมช่วงความสนใจบกพร่อง
       - มีปัญหาในการอ่าน ผลจากการขาดสิ่งกระตุ้นสติปัญญาขณะเป็นเด็ก
       - เบาหวานประเภท 2 จากการกินอาหารแคลอรีสูงระหว่างดูทีวี
       - คลื่นที่แผ่ออกมาจากทีวีมีความเกี่ยวพันกับการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ภูมิคุ้มกันบนผิวหนัง
       - ทำให้คอเลสเตอรอลเพิ่ม เนื่องจากเด็กไม่ค่อยทำกิจกรรมอื่น นอกจากนั่งเฝ้าหน้าจอทีวี
       - การดูทีวีอาจทำให้กระบวนการเผาผลาญอาหารช้าลงกว่าการไม่ทำอะไรเลย
       - สายตาสั้น
       - การดูทีวีมากๆ ทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะเป็นโรคอัลไซเมอร์

จาก : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ[สสส.]  www. thaihealth.or.th

หนังสือและบทความที่เกี่ยวข้อง

- คืนอิสระสู่สมองเด็กไทย แก้วิกฤตชาติ >>  http://luksoshow.multiply.com/reviews/item/6 

- โครงการปิดทีวี ของwechange  >>  http://wechange.seubsan.net/wc/index.php?option=com_content&task=view&id=38&Itemid=19

- 'วาระแห่งชาติ' ของเด็กไทย" >> http://multiply.com/mail/message/clickkids:notes:234'

- ยักษ์(ใน)จอตู้ : ทีวี.. แทนพี่เลี้ยงเด็กไม่ได้ >> http://clickkids.multiply.com/journal/item/83

-  ยักษ์(ใน)จอตู้  : ทีวี เพชฌฆาตสมองเด็ก >> http://newsroom.bangkokbiznews.com/comment.php?id=1330&user=atirach

- ยักษ์(ใน)จอตู้ :  ภูมิคุ้มกันทีวีบกพร่อง >> http://clickkids.multiply.com/journal/item/84

 

- รู้ทันโฆษณาแฝง (สำหรับเด็ก) เสียตอนนี้ จะจัดการกับทีวีได้ง่ายขึ้น

 

การ์ตูนโทรทัศน์ : พื้นที่สื่อ พื้นที่เสี่ยงของเด็กไทย

 

อิทธิพลโทรทัศน์

 

“เซ็นเซอร์”ไว้ก่อน...อย่าใจอ่อนให้ลูกดู!

 

ผลกระทบจากโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์.. ที่บอร์ดแสนสนุกฯ

 

 

เราเปลี่ยน โลกเปลี่ยน  อยากให้โลกเป็นอย่างไร  เลี้ยงลูกให้เป็นอย่างนั้น 

ความคิดเห็น

  1. งวดนี มาแปลก ...คับ คุณพ่อคุณแม่ ยังไม่มา.....
    มีคุณลุง กะ คุณป้า มาอ่านก่อน ..555..5:)

    ตอบลบ
  2. อะจ๊ากกกกกกกกกกกกก เค้าเป็นคุณหนูๆ ต่างหาก

    ตอบลบ
  3. ก๊ากก..ก
    แก้ข่าว .. พี่มิลค์ เป็น คุณหนู ม่ายช่าย... คุณป้า 55..5;p

    ตอบลบ
  4. น่ารักมั๊กมากคะน้องลูกโซ่ข่า..... อย่างนี้รักตายเลย

    ตอบลบ
  5. เดี่ยวนี้ก็ไม่ชอบดูทีวีแหละ โดยเฉพาะพวกละครหลังข่าว ... ดูทีไร จิตตก ทุกที ....

    ตอบลบ
  6. มาแล้วค๊า มาช้าไปนิด ไม่ว่ากันนะ
    ...

    บ้านนี้ก็เปิดทีวีกันก็ช่วงข่าว และเปิดบาร์นี่ให้หนูปุญญ์ดูวันละหนึ่งครั้ง
    อีกอย่างที่ไม่ชอบเลยก็คือโฆษณาไร้สาระอีกมากมาย
    เข้าห้องเล่านิทานกันดีกว่า

    ตอบลบ
  7. เห็นด้วยเลยคะ มีด้าน + ก็ต้องมีด้าน - เนอะ ทุกอย่างมีคู่กัน เราต้องเลือกสรรสิ่งดี ๆ ให้กับลูกเราคะ

    ตอบลบ
  8. อืม..ม์ แลกเปลี่ยนมุมมองกันคับ ดีๆ..คับ:)

    ตอบลบ
  9. ทราบเรื่องรายการดังกล่าว จาก คุณแม่ของเด็กข้างบ้านเล่าให้ฟังเหมือนกันคับ
    เมื่อก่อน เค๊า งงๆ และไม่เข้าใจ ที่ บ้านเราไม่ให้ลูกโซ่ดูทีวี ไม่ได้ห้ามนะคับ แต่ควรจะดูหลังจาก 3 ขวบแร้วว..ว [ตาม... คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ] ในระยะเวลาชมที่เหมาะสม นะคับ....

    ตอบลบ
  10. ดาบ 2 คมเนอะ แต่พ่อแม่นี่แหละ ต้องเลือกรายการให้ลูกดู แล้วก็ต้องกำหนดเวลาที่ดูด้วย

    แต่บางครั้งมันก็จำเป็นที่ต้องกลายเป็นแม่ที่ไม่ตั้งใจจะเป็น คือฝากทีวีเลี้ยงลูกซักแป๊บ ตอนแม่ทำงานบ้านหน่อย เวลาเป็นแบบนั้นทีไร เศร้าทุกที แต่ทำไงได้อ่ะ เฮ้อ

    ตอบลบ
  11. 555...5 อย่างพี่ชะเอม น่าจะดูได้ไม่มีปัญหาอะไรแร้ว..ว นะคับ เพียงคุณแม่ อาจจะเลือกราการอย่างที่ว่า และกำหนดระยะเวล และช่วงเวลา นะคับ
    เท่าที่ทราบ คุณแม่หลายๆบ้านที่รู้จักในมัตติพาย ก้อ..ทำอย่างงั้นคับ:)

    ตอบลบ
  12. เห็นด้วย แต่ก็แอบเห็นใจคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่ค่อยมีเวลาเหมือนกัน เฮ้อ!
    แอบนึกตอนเด็กๆ ขนาดการ์ตูนพ่อยังไม่ค่อยให้ดูเลย ให้ดูแต่ข่าว (เอะ แล้วแบบนี้มันดีไม่ดีเนี๊ยะ)

    ตอบลบ
  13. โห้...แสดงว่า คุณพ่อพี่หญิง เข้าใจ และไม่ธรรมดา ..คับ
    เคยได้ทราบมา หากเด็กที่โตนิดแร้วว นะคับ ได้ชมข่าว ฟังการอ่านข่าวเป็นประจำ รวมทั้งจากวิทยุด้วยนั้น จะซึบซับทักษะการออกเสียงอักขระที่ถูกต้องด้วย
    ไม่เหมือนรุ่น ก่อน ..ๆ ที่ รอ.เรือ หายไป ... เป็นต้น 555..5;p

    ตอบลบ
  14. หาเพลงเกี่ยวกะ ทีวี ไม่ได้ สงสัย เด่วว..ว พรุ่งนี้ ต้องอัพเอง ...

    ตอบลบ
  15. ร้ายแรงกว่าที่คิดไว้มากแฮะ

    แม่ลูกโซ่น่ารักจังครับ หาอาหารดีๆมาเสริฟให้สมองเรื่อยเลย

    ตอบลบ
  16. เดี๋ยวนี้นิวก็ทำท่าจาติดทีวีเหมือนกันค่ะ แต่เหมือนกับเปิดเพื่อใช้เสียงเป็นเพื่อนมากกว่า
    เพราะร้องจะให้เปิด แต่ก็ไม่ค่อยจะดู .. เลยเปลี่ยนเป็นเปิดซีดีนิทานให้ฟังแทน

    ตอบลบ
  17. อืมม์ น่าจะใช้เป็นวิธีเบี่ยงเบนได้ ..ทางหนึ่งคับ คุณแม่:)

    ตอบลบ
  18. ลูกชายผมอย่างติดการ์ตูน Tom & Jerry เลย...เฮ้อ
    ไม่รู้ถ้าได้เข้าเรียนแล้วจะทำให้เหนื่อยเร็วแล้วนอนเร็วด้วยไม๊น้อ

    ตอบลบ
  19. Tom & Jerry พ้มเอง ก้อย๊าง...ง ชอบเร้ยย..ย คับ เป็การ์ตูน ที่สนุก และคลาสิก มากๆ ..
    สำหรับเด็กที่โตขึ้นมานิดแล้วนั้น น่าจะดูได้บ้างนะคับ แต่... ในระยะเวลาที่เหมาะสม นะคับ ... ไม่ถึงกลับดูไม่ได้เลยนะคับ:)

    ตอบลบ
  20. อืมมมม ผมนึกว่า2ขวบซะอีก ผมกำลังชั่งใจอยู่ ว่าจะซื้อดีวีดีไอน์ไสตน์มาใหเริ่ม้ดูตอนขวบครึ่ง
    เอ...ยังไงดีเนี่ย รบกวนขอความรู้ด้วยครับ

    ตอบลบ
  21. เห็นด้วยค่ะ เคยอ่านเจอมาบ้างเหมือนกัน

    ตอบลบ
  22. ด้วยความยินดีครับ
    ที่bbl4kid ขอไปวิ่งเล่นทั่วๆหล่ะกันนะครับ

    ขอบคุณเช่นกันครับ:)

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม